ช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม อุณหภูมิประมาณ 3 – 17°C ธรรมชาติเริ่มตื่นตัว ต้นไม้เริ่มผลิใบ ดอกไม้บานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งสายชิล ชอบถ่ายภาพวิวธรรมชาติ ทุ่งหญ้าเขียวขจี และไม่ชอบอากาศหนาวจัด เป็นช่วงโลว์ซีซั่น คนไม่พลุกพล่าน เดินทางสะดวก เหมาะกับ: คนที่ชอบความสงบ สัมผัสธรรมชาติบริสุทธิ์ในบรรยากาศเย็นสบาย

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในช่วงฤดูใบไม้ผลิ

เมืองเบิร์น เมืองเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ มีสถาปัตยกรรมโกธิค ร้านกาแฟน่ารัก และสวนกุหลาบ ที่สวยงาม 
ทะเลสาบและภูเขา ทะเลสาบเจนีวา ทะเลสาบเบรียนซ์ และทะเลสาบลูเซิร์น พร้อมชมวิวภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะที่ยังหลงเหลืออยู่ 
หมู่บ้านเลาเทอร์บรุนเนิน หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในหุบเขา มีน้ำตกที่สวยงาม และเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดดินแดนเอลฟ์ในวรรณกรรมเรื่อง The Lord of the Rings 
อินเทอร์ลาเคน เมืองที่อยู่ใจกลางเทือกเขาแอลป์ มีกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย เช่น เดินป่า ร่มร่อน และล่องเรือ 
ฟลูเอลี-รันฟท์ หมู่บ้านบนเขาที่มีบรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิที่สดชื่น 
สวนดอกไม้ ชมดอกไม้หลากหลายชนิด เช่น ดอกแดฟโฟดิล ดอกวิสทีเรีย ดอกแมกโนเลีย ดอกเชอร์รี่ และดอกทิวลิป
 

ช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม อุณหภูมิกลางวันอยู่ที่ 18 – 28°C เป็นช่วงที่กิจกรรมกลางแจ้งเฟื่องฟูมากที่สุด เช่น เดินป่า ปีนเขา ล่องเรือ หรือปิกนิกริมทะเลสาบ ฟ้าสดใส ทัศนวิสัยดี เหมาะกับการชมวิวเทือกเขาแอลป์แบบไม่มีเมฆหมอก เมืองต่างๆ คึกคัก มีเทศกาลหน้าร้อนและตลาดท้องถิ่นให้เดินเล่น เหมาะกับ: นักผจญภัยและสายกิจกรรม ผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งและผู้ที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจ

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในช่วงฤดูร้อน

ยอดเขาจุงเฟรา จุดชมวิวสูงสุดของยุโรป นั่งรถไฟขึ้นไปชมวิวธารน้ำแข็งสุดอลังการ
ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น ภูเขารูปทรงพีระมิดสุดโดดเด่น มองเห็นได้จากเมืองเซอร์แมท
ทะเลสาบเบรียนซ์ น้ำสีเขียวมรกตตัดกับภูเขาเขียวชอุ่ม เหมาะกับล่องเรือชิลๆ
ทะเลสาบโอชิเนนเซ ทะเลสาบกลางหุบเขา ได้รับการขนานนามว่า "งดงามดั่งภาพวาด"
เมืองเซอร์แมท เมืองปลอดรถยนต์ที่เงียบสงบ รายล้อมด้วยธรรมชาติแสนบริสุทธิ์
หมู่บ้านกรินเดลวัลด์ หมู่บ้านกลางหุบเขา วิวพาโนรามา 360° ของเทือกเขาแอลป์และทุ่งหญ้าเขียวขจี

ช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน อุณหภูมิ 5 – 18°C (บางพื้นที่เริ่มหนาวเย็น) ต้นไม้เปลี่ยนสีสวยงามทั่วทั้งประเทศ เหลือง แดง ส้ม เต็มเทือกเขาและหุบเขา เป็นช่วงเวลาสุดโรแมนติก มีเทศกาลท้องถิ่นเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวผลผลิต บางวันอาจมีฝน หรือหิมะโปรยบางๆ เป็นเสน่ห์ของฤดูเปลี่ยนผ่าน เหมาะกับ: คู่รัก นักถ่ายภาพ และคนที่ชอบความโรแมนติกของธรรมชาติเปลี่ยนสี

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในช่วงฤดูใบไม้ร่วง

เมืองลูเซิร์น เมืองที่มีเสน่ห์ริมทะเลสาบ สะพานไม้คาเปล และอนุสาวรีย์สิงโต เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม. 
เมืองเซอร์แมตต์ เมืองเล็กๆ ที่ปราศจากรถยนต์ ตั้งอยู่เชิงเขา Matterhorn มีวิวภูเขาหิมะและใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม. 
เมืองอินเทอร์ลาเคน เมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบสองแห่ง มีกิจกรรมให้ทำมากมาย และมีวิวภูเขาและใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม. 
หมู่บ้านอิเซล์ทวาลด์ หมู่บ้านเล็กๆ สไตล์สวิสชาเล่ต์ริมทะเลสาบ Brienz ที่มีชื่อเสียงจากซีรีย์เกาหลี. 
เมืองเวเวย์ เมืองริมทะเลสาบเจนีวาที่มีไร่องุ่น ซึ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงใบองุ่นจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง
 

ช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ย 0 – -10°C ขึ้นอยู่กับพื้นที่ เป็น High Season ของสวิตเซอร์แลนด์ เพราะเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน เมืองภูเขาอย่าง เซอร์แมท หรือจุงเฟรา เต็มไปด้วยนักสกีและนักท่องเที่ยว มีตลาดคริสต์มาสสุดน่ารัก ไฟประดับในเมืองเก่า และวิวสวยระดับเทพนิยาย เหมาะกับ: คนที่อยากสัมผัสหิมะ เล่นสกี หรือตามล่าบรรยากาศคริสต์มาสในยุโรป

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในช่วงฤดูหนาว

ยอดเขาทิตลิส ขึ้นกระเช้าหมุนได้ 360° ชมวิวหิมะสุดอลังการ เดินบนสะพานแขวนสูงเสียวใจกลางเทือกเขา
สกีรีสอร์ทเซอร์แมท เมืองสกีสุดหรูที่สามารถมองเห็นยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นแบบใกล้ชิด สนุกกับกิจกรรมสกี สโนว์บอร์ด และการเดินเล่นท่ามกลางหมู่บ้านหิมะ
หมู่บ้านแอนเดอร์แมท เมืองเล็กแสนโรแมนติกในหุบเขา รายล้อมด้วยวิวขาวโพลน เหมาะสำหรับเล่นสกีและนั่งรถไฟสาย Glacier Express
เมืองเซนต์มอริทซ์ เมืองแห่งความหรูหราและสกีรีสอร์ทระดับโลก เป็นที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว และมีทะเลสาบน้ำแข็งที่คนชอบมาเล่นไอซ์สเก็ต
ทะเลสาบเบลาเซ ทะเลสาบน้ำใสท่ามกลางป่าสนในฤดูหนาว น้ำยังคงใสจนเห็นพื้นแม้หิมะจะตกหนา เหมาะกับการเดินเล่นถ่ายรูปสุดโรแมนติก

สวิตเซอร์แลนด์ไม่ใช่แค่ประเทศที่มีภูเขาสวยและธรรมชาติระดับโลกเท่านั้น แต่ยังโดดเด่นด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ซึ่งสะท้อนผ่านภาษา วิถีชีวิต อาหาร และสถาปัตยกรรมในแต่ละภูมิภาค

 4 วัฒนธรรมหลักในประเทศเดียว

วัฒนธรรมเยอรมัน พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ เช่น ซูริค ลูเซิร์น เบิร์น สไตล์การใช้ชีวิตเรียบง่าย ตรงเวลา และให้ความสำคัญกับกฎระเบียบ ภาษาเยอรมันเป็นภาษาหลักในภูมิภาคนี้

วัฒนธรรมฝรั่งเศส เช่น เมืองเจนีวา โลซาน มีอิทธิพลจากฝรั่งเศสชัดเจน ทั้งอาหาร สถาปัตยกรรม และแฟชั่น ชาวสวิสฝรั่งเศสมีความโรแมนติก และเปิดกว้างทางศิลปะ

วัฒนธรรมอิตาลี เช่น เมืองลูกาโน่ โลการ์โน ให้ความสำคัญกับครอบครัว การกินแบบเป็นกันเอง และไลฟ์สไตล์แบบสบายๆ อาหารที่นี่จะมีเสน่ห์แบบอิตาเลียนแท้ๆ เช่น พาสต้า พิซซ่า กาแฟเอสเปรสโซ่

วัฒนธรรมเรโต-โรมานซ์ ภาษาและวัฒนธรรมเก่าแก่ที่ยังคงอยู่ในแถบเทือกเขา เป็นกลุ่มชนพื้นเมืองดั้งเดิม มีเอกลักษณ์เฉพาะในการใช้ภาษาและขนบธรรมเนียม

เทศกาลที่สะท้อนวัฒนธรรม  เทศกาลคาร์นิวัล ฉลองก่อนเข้าพรรษาแบบครึกครื้น โดยเฉพาะที่บาเซิล เทศกาลดนตรีแจ๊สระดับโลก ที่ดึงศิลปินจากทั่วโลกมาร่วม เทศกาล Alphorn และ Yodel สืบสานวัฒนธรรมการเป่าแตรยาวและร้องเพลงพื้นบ้าน

สวิตเซอร์แลนด์ไม่ใช่แค่ประเทศแห่งภูเขาและธรรมชาติสุดอลังการ แต่ยังมีอาหารรสชาติเยี่ยมที่ผสมผสานวัฒนธรรมจากฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลีเอาไว้ด้วยอย่างลงตัว 

เมนูแนะนำ

ชีสฟองดู (Cheese Fondue) เมนูระดับชาติ ใช้ชีสร้อนๆ (เช่น Emmental หรือ Gruyère) ละลายรวมกันในหม้อ แล้วใช้ขนมปังจุ่มลงไป เป็นกิจกรรมมื้ออาหารที่อบอุ่นและสนุก
รัคเลตต์ (Raclette) ชีสอีกหนึ่งแบบที่โดดเด่นไม่แพ้กัน นำชีสแผ่นหนาๆ ไปย่างจนละลาย แล้วราดบนมันฝรั่งต้ม เสิร์ฟพร้อมผักดองและแฮม เป็น comfort food สุดฮิตในฤดูหนาว
โรสตี (Rösti) มันฝรั่งขูดทอดกรอบๆ หน้าตาคล้ายแฮชบราวน์ ทานคู่กับไข่ดาว ชีส หรือเบคอน เป็นอาหารเช้าหรือจานเคียงยอดนิยม
ซูริเชอร์ เกชเน็ตเซลเทส (Zürcher Geschnetzeltes) เนื้อลูกวัวผัดกับครีม ซอสไวน์ขาว และเห็ด เสิร์ฟคู่กับโรสตี เป็นอาหารจากเมืองซูริคที่ทั้งหรูและอร่อย
แซฟราน ริซอตโต้ (Saffron Risotto) อาหารจากเขตทางใต้ที่ติดอิตาลี ใช้ข้าวริซอตโต้ปรุงกับหญ้าฝรั่น (saffron) สีเหลืองทอง รสกลมกล่อม หอมอ่อนๆ
ช็อกโกแลตสวิส (Swiss Chocolate)  ของหวานอันดับหนึ่งของประเทศ สวิตเซอร์แลนด์เป็นบ้านของแบรนด์ช็อกโกแลตระดับโลก เช่น Lindt, Toblerone หรือ Läderach ห้ามพลาดซื้อกลับบ้าน
เบร็ด (Bircher Müesli) อาหารเช้าสุดเฮลธ์ตี้ ซีเรียลผสมผลไม้ โยเกิร์ต และถั่ว ถือกำเนิดจากหมอสวิส เหมาะมากสำหรับสายสุขภาพ
อาหารสวิสอาจดูเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยวัตถุดิบคุณภาพ รสชาติละมุน และกลิ่นอายวัฒนธรรมจากหลายภูมิภาคในยุโรป
 

ดินแดนเหนือเมฆแห่งสวิตเซอร์แลนด์ ยอดเขาจุงเฟรา หรือที่หลายคนเรียกว่า “Top of Europe” คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ของสวิตเซอร์แลนด์ ที่คุณไม่ควรพลาด ด้วยความสูงกว่า 3,454 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บนยอดเขานี้คุณจะได้สัมผัสความงามของเทือกเขาแอลป์แบบ 360 องศา ท่ามกลางหิมะขาวโพลนตลอดทั้งปี

นั่งรถไฟสาย Jungfrau Railway เป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป วิ่งลอดผ่านภูเขาสูงจนถึงสถานี Jungfraujoch ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป!

สัมผัสหิมะตลอดปี เล่นหิมะ เดินบนธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier ที่ใหญ่ที่สุดในเทือกเขาแอลป์ เพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น สโนว์ท่อบิ้ง เดินบน Sky Walk

Sphinx Observatory จุดชมวิวสูงสุด จุดชมวิวที่สามารถเห็นยอดเขา Eiger, Mönch และ Jungfrau ได้แบบเต็มตา วิวสุดอลังการ เหมาะกับการถ่ายรูปอย่างยิ่ง!

 Ice Palace & Glacier Plateau เดินเข้าไปในอุโมงค์น้ำแข็งใต้ธารน้ำแข็งที่สลักเป็นรูปต่างๆ ถ่ายรูปกับประติมากรรมน้ำแข็งสุดน่ารัก

เมืองเล็กๆ แสนงดงามในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ผสมผสานความคลาสสิกของสถาปัตยกรรมโบราณเข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ตั้งอยู่ริมทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lucerne) โอบล้อมด้วยเทือกเขาสูงและอากาศบริสุทธิ์ เหมาะกับการเดินเล่น พักผ่อน และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศแสนสงบ

สะพานไม้ชาเพล (Chapel Bridge – Kapellbrücke) สะพานไม้เก่าแก่ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14
ภายในมีภาพวาดเก่าแก่บนแผ่นไม้ บอกเล่าเรื่องราวของเมืองในอดีต

หอคอยน้ำ (Water Tower) หอคอยทรงแปดเหลี่ยมกลางสะพานไม้ เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยม

อนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) รูปปั้นสิงโตหินที่ถูกสลักไว้ในหน้าผา เพื่อรำลึกถึงทหารสวิสที่เสียชีวิตในการปกป้องพระราชวังฝรั่งเศส ได้รับการขนานนามว่า “สิงโตที่น่าเศร้าที่สุดในโลก”

ทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lucerne) ล่องเรือชมวิวทะเลสาบสุดโรแมนติก ท่ามกลางภูเขาและธรรมชาติบริสุทธิ์ จุดถ่ายรูปที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง

Mt. Pilatus หรือ Mt. Rigi จากลูเซิร์นสามารถขึ้นเขา Pilatus ได้โดยกระเช้าไฟฟ้า หรือขึ้น Mt. Rigi โดยรถไฟฟันเฟือง
เหมาะกับผู้ชื่นชอบการชมวิวจากมุมสูง และกิจกรรมกลางแจ้ง

เมืองเล็กกลางขุนเขา แดนสวรรค์ของคนรักภูเขาและหิมะ คือเมืองรีสอร์ทบนเทือกเขาแอลป์ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ ใกล้ชายแดนอิตาลี โอบล้อมด้วยยอดเขาอันตระการตา โดยเฉพาะ “ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn)” ที่โดดเด่นราวกับภาพในโปสการ์ด จนกลายเป็นไอคอนของสวิตเซอร์แลนด์ไปแล้ว

 ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) ยอดเขาทรงพีระมิดสูง 4,478 เมตร ที่สามารถมองเห็นได้จากตัวเมือง เป็นแรงบันดาลใจของโลโก้ช็อกโกแลต Toblerone

สถานีรถไฟ Gornergrat นั่งรถไฟสาย Gornergrat Bahn ขึ้นไปชมวิวพาโนรามาแบบ 360 องศา เห็นทั้งแมทเทอร์ฮอร์นและเทือกเขาแอลป์เรียงรายสุดสายตา

หมู่บ้านปลอดมลพิษ Zermatt เป็นเมืองปลอดรถยนต์ทั่วไป ใช้เพียงรถไฟฟ้าและรถม้า บรรยากาศเงียบสงบ เดินเล่นได้ทั่วเมืองโดยไม่ต้องเร่งรีบ

พิพิธภัณฑ์ Matterhorn Museum เรียนรู้เรื่องราวการพิชิตยอดเขาและวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวสวิส จัดแสดงของจริงและจำลองหมู่บ้านใต้ดินให้ชมแบบ immersive

กิจกรรมฤดูหนาว เล่นสกี, สโนว์บอร์ด หรือแค่เดินเล่นท่ามกลางหิมะฟูๆมีลานสกีมาตรฐานโลกและวิวระดับโลกที่สายกิจกรรมต้องประทับใจ

เสน่ห์แห่งสีเขียวมรกตกลางหุบเขาแอลป์ Lake Brienz คือหนึ่งในทะเลสาบที่สวยที่สุดของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) โดดเด่นด้วยสีเขียวมรกตใสราวกระจก และล้อมรอบด้วยภูเขาสูง ทุ่งหญ้า และหมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบ

สีของน้ำที่น่าตื่นตา สีเขียวอมฟ้าสวยสดใส เป็นผลจากแร่ธาตุในน้ำและการละลายของธารน้ำแข็ง เป็นหนึ่งในทะเลสาบที่มี “โทนสีธรรมชาติ” ชัดเจนที่สุดในยุโรป

ล่องเรือชมวิว มีบริการเรือสำราญล่องทะเลสาบ ให้คุณดื่มด่ำกับวิวภูเขาและหมู่บ้าน เรือบางลำเป็นเรือพลังไอน้ำแบบโบราณ ให้บรรยากาศวินเทจสุดๆ

น้ำตก Giessbach Falls น้ำตกที่ไหลลงทะเลสาบโดยตรง สามารถเดินป่าไปถึงได้ หรือขึ้นรถราง Giessbachbahn ชมวิวจากมุมสูงและแวะพักที่โรงแรมเก่าแก่ Giessbach Grand Hotel

หมู่บ้าน Iseltwald หมู่บ้านเล็กเงียบสงบบนฝั่งทะเลสาบ หนึ่งในสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ “Crash Landing on You” มีท่าเรือเล็กๆ สุดโรแมนติก เหมาะกับการนั่งพักผ่อนหรือถ่ายภาพวิวหลักล้าน

กิจกรรมกลางแจ้ง พายเรือแคนู เดินป่าริมทะเลสาบ หรือปั่นจักรยานเส้นทางธรรมชาติ ช่วงฤดูร้อน อากาศเย็นสบาย เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท

ยอดเขาทิตลิส (Titlis) คือหนึ่งในยอดเขาชื่อดังของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ใกล้เมืองเอนเกิลเบิร์ก (Engelberg) แห่งรัฐออบวัลเดิน (Obwalden) โดดเด่นด้วยหิมะขาวโพลนตลอดทั้งปี และเป็นจุดหมายยอดฮิตสำหรับคนที่อยากสัมผัสหิมะและธารน้ำแข็งแบบใกล้ชิด แม้ในฤดูร้อน

 Titlis Rotair กระเช้าลอยฟ้าหมุนได้ 360 องศาแห่งแรกของโลก พาคุณขึ้นสู่จุดสูงสุดพร้อมชมวิวเทือกเขาแอลป์แบบรอบทิศ
ใช้เวลาเพียง 30 นาทีจาก Engelberg

Glacier Cave ถ้ำน้ำแข็งใต้ธารน้ำแข็ง เดินชมเส้นทางน้ำแข็งสีฟ้าครามที่อุณหภูมิ -1.5°C แสงไฟสวยงามเหมือนอยู่ในโลกแฟนตาซี

Titlis Cliff Walk  สะพานแขวนเหนือธารน้ำแข็งที่สูงที่สุดในยุโรป ยาว 100 เมตร บนความสูง 3,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล
ท้าทายความกล้าพร้อมวิวสุดอลังการ

สนุกกับหิมะตลอดปี เล่นหิมะ ปั้นตุ๊กตาหิมะ หรือสนุกกับ Snow Tubing ช่วงฤดูหนาว มีลานสกีคุณภาพสำหรับมือใหม่และมือโปร

Titlis Ice Flyer กระเช้าลอยฟ้าแบบเก้าอี้ชมวิวเหนือธารน้ำแข็ง สัมผัสหิมะจากมุมสูงอย่างตื่นเต้น